31/03/2023
Breaking News

“ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์” ชูสถานะ ทำซื้อวัคซีนวัววิดได้ แต่ว่าจะต้องมาขอ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา-สธ.

“วิษณุ” แจง “ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์” ชูสถานะเท่ากัน กระทรวงทบวง กรม ทำให้ดีลซื้อวัคซีนวัววิด-19 เองได้ แต่จะต้องมาขอ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา-สธ. ยัน ใช้งบฯตัวเอง อุดช่องว่างตอนขาดแคลน ย้ำ เมื่อไทยผลิตเองจะต้องหยุด ยัน รัฐบาลไม่ได้เอื้อ

วันที่ 27 พค. นายวิษณุ เครือสวย รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีราชกิจนุเบกษา เผยแพร่ประกาศ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ว่าด้วยการให้บริการทางด้านการแพทย์แล้วก็ การสาธารณสุข ในเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อเชื้อไวรัสวัวโรท้องนา 2019 แล้วก็ เหตุการณ์การรีบด่วนอื่นๆว่า ความกระจ่างแจ้งได้เกิดขึ้นวันนี้ เมื่อ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ออกหลักเกณฑ์หรือเรียกว่า คำบัญชาดวงตามมาอีกฉบับหนึ่งเพื่อขยายความ โดยมีความกระจ่างแจ้งขึ้น ดังต่อไปนี้

1.ซึ่ง ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มีอำนาจทางด้านกฎหมายของเขาที่จะออกประกาศอย่างนี้ได้ เพื่อจะนำเข้า วัคซีน ยา เวชภัณฑ์แล้วก็อุปกรณ์ทางการแพทย์ ถ้าไม่ออกประกาศแบบงี้มาจะไม่สามารถนำเข้าได้ แล้วก็การออกประกาศดังที่กล่าวถึงมาแล้วเพื่อจะมีอำนาจนำเข้า แต่ไม่ใช่ว่าสามารถนำเข้ามาเป็นอิสระ เพราะจะต้องทำตามกฎหมายที่มีอยู่ทุกประการ ดังเช่นว่า ขอ อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) กระทรวงสาธารณสุข แต่ถ้าไม่ออกประกาศมาก็จะไม่สามารถขอยื่นอะไรได้เลย หรือ เรียกว่าตกคุณลักษณะ

2.ได้แก่การใช้อำนาจในตอนวิกฤติเหตุการณ์ วัววิด-19 เพียงแค่นั้น แล้วก็ใช้ตอนที่วัคซีนขาดแคลน โดยหลักเกณฑ์ที่ นพ.นิธิ มหาความยินดี เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้อธิบายว่า เมื่อเหตุการณ์นี้คลี่คลายอำนาจนี้ก็จะหมดไป หรือเมื่อผลิตวัคซีนขึ้นมาในประเทศได้อย่างเพียงพอ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จะหยุดการนำเข้าทั้งสิ้น

3.จะต้องทำตามข้อกำหนดกฎหมายที่มีอยู่ทุกประการ ด้วยเหตุผลดังกล่าวประกาศดังที่กล่าวถึงมาแล้วเพื่ออุดช่องว่างเพียงแค่นั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเป็นการหาซ้ำไปซ้ำมากับทางกระทรวงสาธารณสุข ที่กำลังทำงานอยู่หรือเปล่า นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ซ้ำไปซ้ำมา เพราะจะต้องไปขอจากกระทรวงสาธารณสุข อยู่ดี เพียงแต่เขาเป็นอีกหนทางหนึ่ง เช่นเดียวกับเอกชน หรือใครๆที่ไปติดต่อแล้วกลับมาขอ โดยราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์มีความสามารถที่จะไปติดต่อกับหน่วยงานต่างถิ่น ดังเช่นว่า สปุตนิก หรือแม้แต่ ไฟเซอร์ แล้วก็โมเดอร์ท้องนา เช่นเดียวกับเอกชนผู้คนจำนวนมากที่มีความสามารถ แต่ที่ผ่านมา เอกชนไม่มีปัญหาในเรื่องของคุณลักษณะ แต่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มีปัญหาเรื่องคุณลักษณะ ก็เลยจะต้องออกประกาศมาว่า ตัวเองมีคุณลักษณะ แล้วจะมีสถานะเท่ากันกับเอกชนทั้งหลาย โดยจะต้องผ่าน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาร่วมอีกทั้ง ยาฟาวิพิราเวียร์ วัคซีน แล้วก็เวชภัณฑ์ ไม่ว่าตัวใดก็จะต้องมาขอ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาอยู่ดี โดยหลังจากนี้ จะมีสมรรถนะไปติดต่อเองได้ แล้วก็เมื่อ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเห็นดีเห็นชอบก็เอาเข้ามาได้ แต่ทั้งสิ้นใช้งบประมาณของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เอง โดยไม่ได้มาของบโดยประมาณของรัฐ เพราะมิเช่นนั้น กระทรวงสาธารณสุขก็จะไปทำเอง

 

เมื่อถามว่า โรงหมออื่นๆดังเช่นว่า โรงหมอจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โรงหมอธรรมศาสตร์สรรเสริญ จะทำงานเหมือนกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้หรือเปล่า นายวิษณุ กล่าวว่า การที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จะต้องทำเช่นนั้นเป็นไปตาม พ.ร.บ.ยา คนที่จะนำเวชภัณฑ์ เข้ามาได้ ถ้าเป็นราชการเป็นกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมหาวิทยาลัยของรัฐ ก็เข้าข่ายที่ตรงนี้อยู่แล้ว แต่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ไม่เข้าข่าย เขาก็เลยจะต้องออกประกาศสถานะเขาขึ้นมา ถ้าเกิดในกรณีถ้าเป็นโรงหมอเอกชน ดังเช่นว่า โรงหมอบํารุงราษฎร์ เขาก็มาแบบเอกชนเขาทำได้อยู่ วันนี้เอกชนหลายเจ้าก็ทำกันอยู่ อย่างไรก็ดีประเด็นนี้ได้ตนอธิบายให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชะ นายกฯแล้วก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แล้วก็ผู้อำนวยการศบค. พร้อมด้วยนายสมุดบันทึก ชาญวีรกูล รองนายกฯ แล้วก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้าใจแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลทำงานเรื่องดังที่กล่าวถึงมาแล้วอย่างเร็วเพราะ องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ แล้วก็นายกที่ประชุมราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นคนลงนามใช่หรือเปล่า นายวิษณุ กล่าวว่า “ตามพ.ร.บ.ประธานที่ประชุมราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นคนลงนาม ซึ่งพระองค์ท่านเป็นประธานที่ประชุมฯ ด้วยเหตุผลดังกล่าว คนอื่นๆลงชื่อไม่ได้ แล้วก็กฎหมายก็เขียนไว้ว่า เมื่อเสร็จแล้วให้ลงในราชกิจจานุเบกษาเพื่อประกาศให้คนทั่วทั้งประเทศทราบว่า ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ยกฐานะขึ้น เพราะถ้าไม่มีการออกประกาศ แล้วก็ถ้าเกิดไปยื่นขอจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ก็จะถูกคืนกลับ เพราะไม่มีคุณลักษณะ”