เมื่อวานนี้มีการตอบโต้ ประทะคารมกันระหว่าง 2 สส. จากพรรคร่วมรัฐบาลคุ้นเคย อย่างดุเดือด และก็มีการเกี่ยวโยงกล่าวอ้าง ถึง นายกรัฐมนตรี ผู้ว่าฯ กทม. และก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นจาก นายสิระ เจนจาค่ะ สส.พรรคพลังประชาเมือง ซ้อมตายลงไปนอนในโลง คัดค้านการจัดการระบบการเข้าถึงการแพทย์ ที่พลเมืองไม่อาจจะเข้าถึงระบบได้ จนถึงกำเนิดสถานการณ์ชาวไทยมากมาย นอนรอความตาย อยู่ที่บ้าน กระทั่งยาฟาวิพิราเวียร์ก็มิได้กิน และก็อยากถามไปถึง แพทย์โอภาส แขนกวินพงศ์พันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ว่า ชาวไทยจะมีโอกาสรอดตายกี่เปอร์เซ็นต์ ชีวิตคนไม่ใช่สุนัขข้างถนนถึงจะปลดปล่อยให้ตายตามยถากรรม ทั้งหมดทั้งปวงสะท้อน ระบบสาธารณสุขกำลังล่มสลาย บุคคลาแขนทางด้านการแพทย์ทั้งกระโดดอาคารตาย ลาออก แต่ว่าผู้ใหญ่กระทรวงทุกคนที่เกี่ยวโยงลอยตัวกับปัญหา ซึ่งถึงเวลาที่จะต้องสลับตัวอธิบดีกรมควบคุมโรคได้แล้ว
ขณะเดียวกันนี้ ขอสาบแช่งพวกที่ทำมาหากินกับวัคซีนให้ได้รับภัยความฉิบหายทางด้านการเมืองและก็ครอบครัว แถมทิ้งท้าย อ้างอิงถึงนายศุภชัย ใจสมุทร สส.พรรคยินดีไทย จะต้องรีบออกมาคุ้มครองป้องกันหัวหน้าพรรคทุกครั้ง เพราะกลัวมิได้ลงเลือกตั้งครั้งหลังใช่หรือไม่
เรื่องนี้ นายศุภชัย ใจสมุทร สวนกลับนายสิระ โดยทันที ว่าเรื่องนี้ นายสิระ คงจะเข้าใจอะไรผิดไป อยากให้ทำการบ้านมาก่อน ก่อนที่จะอ้างอิงถึงคนไหนกันแน่ เพราะนายกรัฐมนตรี มีคำสั่งจัดตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯและก็บริเวณรอบๆ ที่มีนาชูรัฐมนตรี เป็นผู้อำนวยการศูนย์ โดยไม่มีชื่อรัฐมนตรีว่าการสาธารณสุขอยู่ในแผนกนี้ แต่ว่าเมื่อทำงานล้มเหลว จนถึงพลเมืองตายคาบ้าน กลับมาด่ากระทรวงสาธารณสุข ในขณะที่ไม่มีหน้าที่ ไม่มีอำนาจตามคำสั่งดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
ยิ่งไปกว่านั้น ยังเกี่ยวโยงไปถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดกทม. ว่า นำวัคซีนไปฉีดให้คนไม่แก่ ไม่เจ็บไข้ และก็แรงงานในระบบประกันสังคม ส่งผลให้คนไข้ตายคาบ้าน รอจนตาย ไม่ไปรับตัว
ในขณะที่ เลขาธิการสภาความยั่งยืนมั่นคงแห่งชาติ กลับไล่คนกลับบ้านนอก ด้วยการปิดแคมป์คนงาน ปิดห้องอาหาร ทำให้เชื้อแพร่ระบาดในบ้านนอกและก็คุมมิได้ ในขณะที่กระทรวงสาธารณสุขบากบั่นคุมเชื้อเต็มกำลัง