ทำใจไว้แล้วว่าไม่เกี่ยวอะไรกับภาคแรก แต่พอดูก็รู้สึกน่าผิดหวังอยู่ดี
หนังมาพร้อม High Concept สูงมากมาย มีความทะเยอทะยานสูง ทั้งยังการบ้านการเมือง ดราม่า เอเลี่ยน กระทั่งถึงพระผู้เป็นเจ้า การผลิตมนุษย์ แต่ดูแล้วเสมือนเมากาว มาเล่าแบบแถๆมากยิ่งกว่า เสียดายเซ็ทอัพมัน มันพร้อมจะเป็นหนังที่ดีได้ แต่หนังเล่าแบบขาดๆเกินๆจะตลกโปกฮาก็ไม่ตลกเต็มที่ / จะเอาจริงเอาจัง ก็ไม่ซีเรียสเต็มที่อีก มองทีเล่นทีจริงไปหมด
ในขณะที่ผลงานล่าสุด ก่อนหน้านี้ของผู้กำกับยุทธยอดเยี่ยม อย่าง ดอกฟ้าหมาแจ๊ส ที่ไฮคอนเซ็ปต์เหมือนกัน (ย้อนเวลา) กลับทำเป็นดียิ่งกว่ามากมาย เพราะมันไม่เล่าเกินกำลัง มุขตลกหน้าเฉยก็พอดีกับเส้นเอาจริงเอาจังของมัน เลยถูกใจ “ดอกฟ้าหมาแจ๊ส” กว่ามากมายๆ
แต่มือสังหาร2 มุขหน้าเฉยมันล้น เสมือนอยากหน้าเฉยแต่คาเฟ่ ต้องการจะเอาจริงเอาจัง เพียงแค่ก็เสมือนคุยโว เลยไม่มีอะไรพอดีทุกสิ่ง
ฉากแอ็คชั่นก็ทำออกมาส่งเดช ยิงกันก็ไม่ดุเดือดอะไรเลย ฉากยิงกันใน “มือสังหารดาวพระเสาร์” ยังดุเดือด มีเลือดกระจายกว่า (ไม่นับมือสังหารเดิม ที่ทำแอ็คชั่นออกมาดี เพราะหนังมาเวย์ตลกโปกฮาแอ็คชั่นสุดกำลังอยู่แล้ว)
สิ่งที่ดี ที่เราสัมผัสได้ จากหนังประเด็นนี้ มี 3 สิ่ง
1. เส้นดราม่า โจ๊กโซคูล กับกิ๊บซี่ที่ อยากพาคนรักใกล้ตาย ไปดูแสงสว่างเหนือ (เห็นได้ชัดว่ายุทธยอดเยี่ยมยังเล่าดราม่าเล็กๆเจริญ)
2. Setting เมืองไทยหิมะตก ที่มองแปลกตา และไม่ค่อยเห็นในภาพยนตร์ไทยเรื่องไหน
3. เพลงประกอบ ตราบธุลีดิน เวอร์ชั่น ลำไยไหทองคำ ทำออกมาเป็นเพลง Dance ดีเลิศ / ไม่ใช่แดนซ์แบบสายย่อสายตื๊ดนะ เป็นออกมาอินเตอร์เสมือน EDM ที่ได้อิทธิพลแบบ 90’s แล้วก็มีปู่จ้ะนร้องเนื้อหลักเสียงสูง มีลำไยร้องคู่ เป็นคอรัสเสียงต่ำ ซึ่ง ดีมวากกกกกก ถูกใจสุดนอกจาก 3 ข้อบนแล้ว ที่เหลือเราก็ไม่จดจำอะไรอีก