อุตส่าห์เล่นก้าวหน้า แถมขึ้นนำก่อนถึง 2-0
สุดท้าย ‘ดีแตก’ ซะแบบงั้น
1. ในเมื่อ 4-2-2-2 มันยังไม่ค่อยเวิร์คสักเท่าไหร่
ราล์ฟ รังนิค ก็เลยปรับระบบการเล่นใหม่ ซึ่งตอนต้นเข้าใจว่าจะเป็น 4-2-3-1 แม้กระนั้นมองเห็นตำแหน่งในสนามแล้วพบว่ามันเป็น 4-1-4-1 ต่างหาก โดยให้ นมานย่า มาติเตียนช เป็นมิดฟิลด์ตัวรับปักหลักอยู่หน้าแผงแบ็คโฟร์ผู้เดียว แล้วดัน เฟร็ด ขึ้นสูงไปเป็นตัวรุกคู่กับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส
ตัวเติมเกมรุกจากฝั่งขวาใช้ เมสัน กรีนวู๊ด ระหว่างที่ตัวเติมเกมรุกจากฝั่งซ้ายใช้นักฟุตบอลดาวรุ่งคนโปรดอย่าง แอนโธนี่ อีลันก้า แทน เจดอน ซานโช่ กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่รายข้างหลังไม่มีชื่อบนม้านั่งสำรองด้วย
เอดินสัน คาวานี่ ถูกวางเป็นหัวหอกผู้เดียว ส่วน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังไม่หายเจ็บ
ตอนต้นระบบ 4-1-4-1 ก็ทำท่าว่าจะเวิร์คครับ
2. (เนื่องเพราะ) พรรคพวกปีศาจร้ายแดงโชว์ฟอร์มได้งามเป็นบ้า เฉพาะอย่างยิ่งในตอนครึ่งชั่วโมงแรก
สิ่งที่มองเห็นเป็นพวกเขามีความกระตือรือร้นกันมากยิ่งขึ้น ว่าและก็พุ่งชนแล้วก็วิ่งเข้าใส่คู่ปรับแบบหื่นกระหายตั้งแต่ต้น
เพียงแค่ 6 นาทีก็ขึ้นนำได้สำเร็จจากความผิดพลาดของนายทวารคู่ปรับที่ออกลูกบอลออกมาทางก้น
การต่อบอลแล้วก็ทำชิ่งมีความแม่นยำ ไม่สะเปะสะปะเสมือนเหมือนเดิม ว่าและก็คุมเกมรุกล้ำใส่ หงส์แดง เอ๊ย! แอสตัน วิลล่า อยู่ข้างเดียว โดย 10 นาทีแรก ครอบครองบอลได้ถึง 80%
เวลาเล่นเกมรับ พวกเขาจะถอยลงมาคุมพื้นที่ในแดนตัวเองทั้งยังสิบเบ็ดคนพลางบดบี้เข้าพบบอลเร็วแล้วชิงบอลกลับมาครอบครองจนคู่ปรับหาช่องทำเกมรุกแทบมิได้
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เจ้าบ้านยังไม่มีจังหวะยิงเลยสักหนึ่งครั้ง – ขออภัย
แต่ว่าต่อไป
3.นับจากนาทีที่ 30 เป็นต้นไป แอสตัน วิลล่า ก็เริ่มลืมตาแล้วก็อ้าปากได้มากขึ้นเรื่อยจนจบครึ่งแรก
เช่นเดียวกับในครึ่งหลังที่ทีมสิงห์เย่อหยิ่งครอบครองบอลบุกได้มากกว่า เมื่อย้ำกันมากยิ่งขึ้น ละเอียดกันมากยิ่งขึ้น แล้วก็ขยับกันมากยิ่งขึ้น ประกอบกับทีมเยือนที่ดูเหมือนจะเบาๆไปแบบซุกซนๆพลางแปลงเกมเป็นตั้งรับแล้วรอคอยสวน
แล้วก็ด้วยความผิดพลาดของตัวเองอีกที แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เลยขึ้นนำ 2-0
นาทีนั้นมันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรสำหรับพวกเขาที่ยังเล่นเกมยอมรับได้เหนียวแน่น
จนกระทั่ง สตีเว่น พบร์ราร์ด ส่ง คูติเตียนนโญ่ ลงมาแล้วมีส่วนกับประตูตีไข่แตก ก่อนเป็นผู้ตีเสมอให้ทีม ‘วิลล่าพูล’ เสมือนเขียนบทเอาไว้
ถามว่ามันเกิดแดนนรกอะไรขึ้น ???
4. เกมในแดนกลางเป็นคำตอบครับผม
โทษฐานตัวรับเพียงลำพัง เนมานย่า มาติเตียนช พบงานหนักมากจนเกินไป ก่อนถูกวิญญาณหอยทากสิงร่างจนไล่หลังคู่ปรับไม่ทัน & ไม่ไหว
เท่านั้นยังไม่พอ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ก็เริ่มจะหมดจนแข้งขาอ่อนเปียก ระหว่างที่แดนหน้าก็เก็บบอลมิได้
เมื่อแดนกลางด้อยกว่า แทนที่จะขยับ เฟร็ด ลงมาช่วยอีกแรง ราล์ฟ รังนิค กลับยึดระบบเดิม แถมไม่ยินยอมแปลงผู้ใดกันลงมาช่วย ลักษณะของปีศาจร้ายแดงก็เลยเริ่มหนักขึ้นเรื่อย
ทั้งยัง 2 ประตูที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เสีย แม้มองภาพช้าจะพบว่า นักฟุตบอลรุ่นใหญ่ที่เพื่อนพ้องร่วมทีมเรียกสั้นๆว่า ‘เนมา’ มีส่วนร่วมทั้งยัง 2 ประตู เป็นเฉื่อยแล้วก็ยืดยาดเสียจนเข้าไปเบรคเกมคู่แข่งขันไม่ทัน
มิดฟิลด์ที่วิ่งพล่านอย่าง ‘บรูโน่’ ก็หมดแล้ว กว่าจะส่ง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ลงมาแทนก็เหลือเวลาเพียงแค่ 2 นาทีแค่นั้น
หน้าเป้าอย่าง เอดินสัน คาวานี่ ที่เก็บบอลมิได้ แถมมักจะทำบอลเสียง่ายๆกลับปล่อยทิ้งเอาไว้ในสนาม แล้วดันไปถอดไอ้จิ๋วตัวจี๊ดอย่าง แอนโธนี่ อีลันก้า ออกซะแบบงั้น
รูปเกมก็เลยด้อยกว่าจนโดนถองคืนไปถึง 2 ดอกนั่นแหละ
5.สรุปว่าในเวลาเพียงแค่ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ยังรักษามาตรฐานของตัวเองเอาไว้มิได้เลยครับผมท่าน
อันนี้บิดาก็ไม่รู้เรื่องตุ้มแบบเดียวกันว่ามันเป็นแมวน้ำอะไร ทั้งที่มันเป็นเกมที่พวกเขาเริ่มต้นได้อย่างดียิ่ง เหมาะกับ 3 แต้มแล้วแท้ๆ
การแก้เกมของกุนซือก็น่าสงสัย ในเมื่อมองเห็นอยู่โทนโท่ว่ามิดฟิลด์ตัวรับที่โรยราเพียงคนเดียว มันเอาไม่อยู่และก็ยังอุตส่าห์ปล่อยให้เป็นอย่างเดิม โดยไม่ยินยอมทำอะไร
การเปลี่ยนตัวก็ไม่ช่วยอะไร แถมกว่าจะส่งตัวสำรอง 2 คนสุดท้ายลงมาก็แทบไม่ว่างแล้ว
โชคร้ายอย่างสูงครับที่พรรคพวกปีศาจร้ายแดงเอาชัยชนะในกำมือตัวเองไปยัดลงชักโครกที่ แอนฟิลด์ เอ๊ย! วิลล่า พาร์ค
มองโลกในแง่ดีก็บุญแล้วล่ะที่ไม่พลิกกลับมาแพ้ ด้วยเหตุว่าก่อนแข่งขันก็รู้สึกว่าไม่น่ารอด
แม้คิดอย่างนี้ได้ก็เพลิดเพลินใจ