30/03/2023
Breaking News

โดนนำสไตล์! ฝรั่งเศสแซงดับสเปน 2-1 ผงาดแชมป์เนชั่นส์ลีก

เป็นอีกเกมที่ประเทศฝรั่งเศสกลับจากที่ตามหลังแล้วกลับมาแซงชนะ ผงาดครองแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ได้เสร็จ

LIVE UPDATE ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก : ประเทศสเปน – ประเทศฝรั่งเศส

ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2020-2021 รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามซาน ซีโร ในเมืองไม่ลาน ประเทศอิตาลี เป็นการพบกันระหว่าง ประเทศสเปน ดวลกับ ประเทศฝรั่งเศส

หฝ่าส์ เอ็นริเก้ กนซือของประเทศสเปน เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ด้วยการใช้สามประสานแนวรุกเป็น เฟร์ราน ตอร์เรส, ปาโบล ซาราเบีย และก็ ไม่เกล โอยาร์ซาบัล

ด้านประเทศฝรั่งเศสของ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ วางหมากมาในแผน 3-4-1-2 โดยใช้ อองตวน กรีซมันน์ ทำเกมรุกร่วมกับคู่แนวรุกอย่าง ติดอยู่ขอบ เบนเซมา และก็ คีลิยัน เอ็มบัปกระเป๋า
เกมในช่วง 45 นาทีแรก ทั้งคู่กลุ่มยังเกือบจะไม่มีโอกาสลุ้นทำประตูแบบกระจ่างให้เห็นกันเลย โดยที่ดินฝั่งของประเทศฝรั่งเศสนั้นยังจำเป็นต้องเสียกองหลังตัวเก่งอย่าง ราฟาแอล วาราน ซึ่งเจ็บกล้ามเนื้อขา กระทั่งจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเอา ดาโยต์ อูปาเมกาโน ลงมาแทน ในนาทีที่ 43 อีกด้วย ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ที่ยังเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลังเปลี่ยนเป็นประเทศสเปนมาได้ประตูขึ้นนำ ในนาทีที่ 64 จากจังหวะที่ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ วางบอลยาวให้ ไม่เกล โอยาร์ซาบัล เบียดเอาชนะตัวตามติดอย่าง ดาโยต์ อูปาเมกาโน ก่อนจะยิงด้วยซ้ายยัดเข้าเสาไกลโดยเด็ดขาด ส่งให้ทัพวัวกระทิงดุออกนำ 1-0

แม้กระนั้นต่อมาเพียงแต่นาทีที่ 66 ประเทศฝรั่งเศสก็มาตามตีเสมอได้แบบเฉียบพลัน จากจังหวะที่ คีลิยัน เอ็มบัปกระเป๋า ไหลบอลให้ ติดอยู่ขอบ เบนเซมา ได้ปั่นโค้งด้วยขวาโค้งแทงสามเหลี่ยมอย่างสวยงาม ทำให้สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1

ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 80 ประเทศฝรั่งเศสมาได้ประตูกลับขึ้นนำ จากจังหวะที่ เตโอ เครื่องปรับอากาศกน็องเดซ ส่งบอลไถลการพุ่งสกัดของ เอริค การ์เซีย เลยไปถึง คีลิยัน เอ็มบัปกระเป๋า ได้หลุดยิงด้วยซ้ายตุงตาข่าย ซึ่งผู้ตัดสินเช็ค VAR แล้วเห็นว่าไม่เป็นการล้ำหน้าอะไร ช่วยทำให้ทัพตราไก่แซงนำ 2-1
แล้วไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มอีก ทำให้ท้ายที่สุดจบเกมเป็นประเทศฝรั่งเศสชนะไป 2-1 ผงาดครองแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีกได้เสร็จ

ufa2

รายนามนักฟุตบอลทั้งคู่กลุ่ม

ประเทศสเปน (4-3-3) : อูไน ซิมอน; เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, เอริค การ์เซีย, อายเมอริค ลาปอร์กต์, มาร์กอส อลอนโซ; กาบี้ (โกเก้ น.75), เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, โรดรี้ (ปาโบล ฟอร์ที่นาลส์ น.84); เฟร์ราน ตอร์เรส (ไม่เกล เมริโน น.84), ปาโบล ซาราเบีย (เยเรมี ปิโน น.61), ไม่เกล โอยาร์ซาบัล
สำรองไม่ได้ใช้ : ดาบิด เด เคอา, เปา ตอร์เรส, อินญิเก๋ มาร์ติเตียนเนซ, ไบรอัน กิล, แซร์จี๋ โรกางร์โต้, โรเบิร์ต ซานเชซ, เซร์คิโอ เรกีลอน, เปโดร ปอร์โร
ใบเหลือง – อายเมอริค ลาปอร์กต์ น.86
ประเทศฝรั่งเศส (3-4-1-2) : อูเก๋ โยริส; ฌูลส์ ปะทุนเด้, ราฟาแอล วาราน (ดาโยต์ อูปาเมกาโน น.43), เปรสแนล คิมเปมเบ้; แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ (เลโอ ดูบัวส์ น.80), ปอล ป็อกบา, อูเรแกงเลียง ชูอาเมนี, เตโอ เครื่องปรับอากาศกน็องเดซ; อองตวน กรีซมันน์ (ฌอร์ดาน แวร์ตูร์ น.90+2); ติดอยู่ขอบ เบนเซมา, คีลิยัน เอ็มบัปกระเป๋า
สำรองไม่ได้ใช้ : อ็องโตนี มาร์กซิยาล, มุสซา ดิยาบี้, มัตเตโอ เกนดูซี, เบอนัวต์ กอสติล, วิสซาม เบน เยดแดร์, ลูกัส เครื่องปรับอากาศกน็องเดซ, ไมค์ เมญอง
ใบเหลือง – ปอล ป็อกบา น.46, ฌูลส์ ปะทุนเด้ น.55, คีลิยัน เอ็มบัปกระเป๋า น.89