31/03/2023
Breaking News

PROS เชื่อมั่นเข้าเทรดวันแรกครึกครื้น ตุนงานในมือแล้ว 2 พันลบ.

PROS มั่นอกมั่นใจเข้าเทรดใน mai วันแรก 27 เม.ย.นี้ ได้รับการตอบกลับที่ดีจากนักลงทุน หนุนราคาเหนือจอง พร้อมเก็บงานในมือไว้ล็อตใหญ่กว่า 2 พันล้านบาท แถมความสามารถในการได้กำไรสุดแจ่มข้างหลังปี 63 กำไรกระโจนถึง 86% จากปีก่อน หวังนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ช่วยหนุนการเติบโตแบบก้าวกระโจน ด้านประธานย้ำความเชื่อมั่นและมั่นใจ กอดหุ้นเอาไว้ในมือแน่นไม่ขาย

นายวงศ์เทวดา รัตนแสงสรวง ประธานข้าราชการบริหาร บริษัท พรอสเพอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PROS เปิดเผยว่า บริษัทแน่ใจว่าการเข้าค้าขายในตลาดหุ้น เอ็ม เอ ไอ (mai) วันแรกจะได้รับการตอบกลับที่ดีจากนักลงทุน และก็พร้อมเดินหน้าขยายกิจการต่อเนื่อง ด้วยความพร้อมเพรียงทางด้านบุคลากรและก็ระบบการทำงานเพื่อขยายกิจการและก็ช่องทางในการเข้าประมูลงานใหม่ๆและก็เกื้อหนุนความสามารถในการสร้างรายได้และก็กำไร รวมถึงอัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นในบริษัทให้เติบโตโดยตลอด
ดังนี้ จากประสบการณ์ที่เกี่ยวกับการทำงานในโครงการของหน่วยงานภาครัฐที่เยอะขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับแนวทางภาครัฐที่เน้นย้ำการลงทุนในระบบสาธารณูปโภคต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านกำลังไฟฟ้า,ขนส่งมวลชน และก็สื่อสารโทรคมนาคม จึงทำให้กลุ่มบริษัทได้โอกาสในการเข้าไปขยายงานในส่วนของงานภาครัฐ จากปัจจุบันนี้มีรูปร่างค่อนข้างจะน้อยหรือปลายปีคาดอยู่ที่โดยประมาณ 20% ซึ่งคาดจะเพิ่มเป็น 50% ในอนาคต

ในขณะที่งานภาคเอกชนที่บริษัทมีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว จากผลงานเป็นที่ยอมรับจากผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นที่รู้จักในอุตสาหกรรมต่างๆได้แก่ เทสหรูหรา โลตัส บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) และก็กลุ่ม ปตท.เป็นต้น ซึ่งบริษัทพวกนี้มีการขยายการเติบโตโดยตลอด
“บริษัทมีการกระจัดกระจายความเสี่ยงลูกค้าให้มีความมากมายหลาย และก็ขยายงานไปยังกลุ่มงานภาครัฐเยอะขึ้นเรื่อยๆ และก็ที่ผ่านมาบริษัทฯ ใช้ยุทธวิธีการขาย เพื่อดูแลลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทชั้นแนวหน้าอย่างมีคุณภาพ ทำให้กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าเกรด A ที่มีฐานะทางการเงินดี และก็ทำให้เราไม่มีปัญหาด้านการเงิน และก็เป็นบริษัทที่แทบไม่มีหนี้สิน ยิ่งไปกว่านี้บริษัทมีความตั้งอกตั้งใจทำงานภายใต้วิสัยทัศน์เป็นบริษัทก่อสร้างชั้นแนวหน้าของประเทศ ซึ่งความเป็นมาผลงานและก็ลูกค้าในสมัยก่อนเป็นเครื่องการันตี และก็ทำให้ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆเชิญชวน PROS เข้าร่วมประมูลงานเยอะขึ้นเรื่อยๆ” นายวงศ์เทวดา กล่าว
โดยกลยุทธ์เติบโตในตอน 3 ปีจากนี้ (ปี 2564-2566) บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 10-20% โดยจะมาจากงานบริการรับเหมาติดตั้งงานระบบประกอบตึก และก็รายได้จากงานให้บริการรับเหมาก่อสร้างงานโยธา คิดเป็นสัดส่วนรายได้รวมกันกว่า 99% ส่วนที่เหลือจะเป็นรายได้อื่นๆช่วงเวลาเดียวกันบริษัทยังคงเน้นย้ำควบคุมและก็การจัดการจัดการเงินลงทุนที่ดี เพื่อความสามารถในการได้กำไรที่ดี โดยมีเป้าหมายรักษาอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ให้อยู่ที่ระดับ 6-7% จากปี 2563 ที่มีอัตรากำไรสุทธิที่ระดับ 5%
นายทองสัมฤทธิ์ชัย ตั้งหะเมือง กรรมการผู้จัดการ บริษัท คันทรี่ กลุ่ม แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางด้านการเงิน PROS เปิดเผยว่าคาด PROS จะเป็นหุ้นไอพีโอที่ได้รับความพอใจจากนักลงทุน ด้วยจุดเด่นบริษัทฯมีฐานะทางการเงินที่เข้มแข็ง โดยภายหลังจาก IPO คาดอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นจะลดน้อยลงเหลือเพียง 0.61เท่าในปี 64 จากปี 63 ก่อน IPO อยู่ที่ 1.18 เท่า มีเงินสดในมือสูง และก็มีการจ่ายปันผลต่อเนื่อง โดยมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 50%

ในขณะที่รายได้และก็กำไรเติบโตเข้มแข็งโดยมีต้นเหตุเกื้อหนุนจากงานโครงการในมือที่ยังไม่ส่งมอบในวันที่ 15 มี.ค.64 ปริมาณ 768 ล้านบาท และก็งานที่มีหนังสือบอกเจตนาการว่าจ้าง (LOI) อีกราว 1,229 ล้านบาท เกื้อหนุนงานในมือ (Backlog) ในปัจจุบันอยู่โดยประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขงานในมือตีสถิติใหม่ของบริษัท โดยจะทยอยรับทราบรายได้ค่อนข้างจะมั่นคงและก็มีเสถียรภาพ และก็ยังไม่รับรวมโครงการใหม่ๆที่บริษัทฯ ได้โอกาสเข้าไปร่วมประมูลเพิ่มเติมอีก สำหรับผลงานในปี 2563 หากแม้ในเหตุการณ์โควิด-19 บริษัทฯ ก็สามารถได้กำไรสุทธิอยู่ที่ 51 ล้านบาท เติบโตกว่า 86.66% จากปี 2562 ทำให้เห็นว่าบริษัทฯ มีความสามารถในการปรับนิสัยทางธุรกิจให้มีกำไรต่อเนื่อง หากแม้ในภาวะเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงไป ส่วนรายได้อยู่ที่ 944.77 ล้านบาท
นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและก็ค้ำประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ PROS เปิดเผยว่า ความมั่นใจหุ้น PROS ในการเข้าค้าขายในตลาดหุ้น เอ็ม เอ ไอ (mai) วันแรก ในวันที่ 27 เม.ย.นี้ นักลงทุนจะสนใจและก็การตอบกลับเป็นอย่างดี จากราคาหุ้น IPO ที่ระดับราคา 2 บาท เป็นราคาที่มีส่วนลดในระดับที่ดีเยี่ยมให้กับนักลงทุน

โดย P/E ของบริษัทฯคาดว่าจะลดน้อยลงได้อีกมากมายจากความสามารถที่จะเติบโตสะดุดตาต่อเนื่อง จากงานในมือสูงเป็นประวัติการณ์ และก็จากฐานทุนที่เข้มแข็งขึ้น จะก่อให้บริษัทมีความพร้อมเพรียงเข้าประมูลงานใหม่ๆทั้งภาครัฐและก็เอกชน และก็ได้โอกาสได้รับงานอีกมากมายในอนาคต ตามการขยายตัวของกลุ่มลูกค้าในนานัปการอุตสหกรรมทั้งภาครัฐและก็เอกชนในประเทศ ประกอบกับการเข้ามาลงบัญชีในตลาดหุ้นฯ จะช่วยเพิ่มระดับความสามารถในการชิงชัย และก็เพิ่มช่องทางในการรับงานที่มีมูลค่าสูงขึ้น
ด้านประธานย้ำความเชื่อมั่นและมั่นใจ กลุ่มครอบครัวรัตนแสงสรวง และก็ผู้ถือหุ้นใหญ่อีก 3 ราย ซึ่งร่วมริเริ่มตั้งขึ้นบริษัทมาด้วยกัน โดยมีหุ้นเกิน 50% ติดไซเรนท์พีเรียดและไม่มีนโยบายที่จะขายหุ้นออกไป โดยผู้ถือรายใหญ่ทั้งปวงให้ความเชื่อมั่นและมั่นใจนำหุ้นส่วนที่เหลือจากที่ติด Silent มาติด Lock Up ทั้งปวง